จำนวนคนอ่านล่าสุด 1522 คน

陛下寺钟声特殊类型是建于2411。พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์พิเศษปี พ.ศ. 2411 ผงตะไบทองHis Majesty Temple bell print special year 2411 filings gold.


陛下寺钟声特殊类型是建于2411。พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์พิเศษปี พ.ศ. 2411 ผงตะไบทองHis Majesty Temple bell print special year 2411 filings gold.

陛下寺钟声特殊类型是建于2411。พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์พิเศษปี พ.ศ. 2411 ผงตะไบทองHis Majesty Temple bell print special year 2411 filings gold.

陛下寺钟声特殊类型是建于2411。พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์พิเศษปี พ.ศ. 2411 ผงตะไบทองHis Majesty Temple bell print special year 2411 filings gold.


รายละเอียด :

พระสมเด็จ0001 Majesty temple bell  After Kanok peonies Gable   Majesty temple bell Khositaram Woramahawihan a large hall. Currently

陛下寺钟声特殊类型是建于2411。

สมเด็จวัดระฆัง หลังดอกโบตั๋น ลายกนกหน้าบัน สมเด็จวัดระฆัง โฆสิตารามวรมหาวิหาร ห้องโถงขนาดใหญ่ ปัจจุบัน

***พระสมเด็จเนื้อปูนเพชรยอดนิยมหลังลายดอกไม้ ****พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่โรยผงตะไบทองคำหลังดอกโบตั๋น        

 ***พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พิเศษสำหรับคนพิเศษ สร้างปี พ.ศ. 2411 ร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 5 โรยผงตะไบทองคำด้านหน้า หลังลายดอกโบตั๋น หลังลายเครือเถาฯ เนื้อเดียวกับพระสมเด็จหลังท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ ช่างสมัยนั้นใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้เคลือบองค์พระไว้ทั้งด้านหน้าและหลัง ด้านหน้ามีหลุดร่อนไปหมดก็มีบางองค์เห็นคราบสีน้ำตาลดำติดอยู่ ด้านหลังที่มีคราบน้ำยารักษาเนื้อไม้อยู่บ้างทำให้ลวดลายเด่นขึ้นเหมือนไม้แกะลายส่วนเด่น บางองค์มีลายละเอียดเล็กๆน้อยๆบ่งบอกถึงฝีมืออันปราณีตของช่างหลวง


        ดอกโบตั๋น (Peony) ในภาษาจีนเรียกว่า “หมู่ตัน” (牡丹) ส่วนภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า “โบตัง” (Botan) เป็นดอกไม้ที่มีคุณค่าสูงยิ่งในวัฒนธรรมของจีน ทั้งรูปร่างสวยงาม สีสันสดใส และมีกลิ่นหอมรัญจวน ในประเทศจีนนั้นยังเรียกดอกโบตั๋นว่า “富贵花” หรือดอกไม้แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยด้วย

เจ้าของ บทความ ธรรมมณีแห่งเสน่ห์ 

29 กันยายน เวลา 14:43 น. · 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ชายจีวรบาง เกศทะลุซุ้ม หลังลายกนกเครือเถาดอกโบตั๋น 
หน้าบันศาลาการเปรียญวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร เป็นศาลาการเปรียญที่มีขนาดใหญ่ ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้เข้าชม ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๖.๖๐ เมตร ยาว ๔๐.๘๐ เมตร สร้าง ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นอาคาร คอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงไทย ลวดลายหน้าบันสวยงาม
กับ 
หน้าบันลายกนกดอกโบตั่นด้านหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสาราม (ลายกนกดอกโบตั่นซุ้มประตูโบสถ์วิหาร)
ดอกโบตั๋นอยู่บนสุด หมายถึง ความมั่งคั่ง
สัญลักษณ์และการใช้ ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานศิลปะมายาวนาน และหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำชาติของจีน โดยถือเป็นดอกไม้แห่งจักรพรรดิและความร่ำรวย กับนิยมใช้ในเชิงสัญลักษณ์ในศิลปะจีนอีกด้วย เมื่อ ค.ศ.1903 ราชวงศ์ชิงประกาศให้โบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำชาติ ปัจจุบันนี้ไต้หวันใช้ดอกเหมยเป็นดอกไม้ประจำชาติ ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีนไม่ได้ใช้เป็นดอกไม้ประจำชาติตามกฎหมายอีกแล้ว และต่อมาเมื่อปี 1994 มีการเสนอให้ใช้ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำชาติอีก โดยการทำประชามติ แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ กระทั่ง ค.ศ. 2003 มีการเสนอดังกล่าวอีกครึ่งหนึ่ง และยังไม่มีการเลือกใช้ดอกโบตั๋นอีกเช่นกัน
เมืองลั่วหยาง เมืองหลวงเก่าที่มีชื่อเสียงของจีน มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางการปลูกดอกโบตั๋นที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์จีน มักจะยกย่องโบตั๋นจากลั่วหยางว่างดงามที่สุดในแผ่นดิน ปัจจุบันยังมีการจัดนิทรรศการและการแสดงดอกโบตั๋นในเมืองนี้ปีละนับสิบๆ ครั้ง
โบตั๋นนิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพราะมีดอกสวยงามและใหญ่มาก ทั้งยังมีกลิ่นหอมด้วย
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ชายจีวรบาง หลังลายกนกดอกโบตั๋น เนื้อสีน้ำตาลไหม้ ผิวมะกอกสุก 
ซึ่งมีส่วนผสมของผงใบลานไหม้ และเกสร ๑o๘ จำนวนมาก ทำขึ้นครั้งเดียวขณะเป็นพระราชปัญญาภรณ์
เนื้อพระสมเด็จ หมายถึงส่วนประกอบหลัก และสีขององค์พระ (นอกเหนือจากผงวิเศษทั้ง ๕ และผงปูนเปลือกหอยเผา ที่ต้องมีทุกองค์)
พระสมเด็จที่มีความงดงาม และเป็นที่นิยมมากที่สุด เป็นพิมพ์ที่แกะโดยหลวงวิจารเจียรนัย ซึ่งเป็นช่างทองวังหลวง 
จัดสร้างถวาย เริ่มต้นจากปี พ.ศ. 2408 เริ่มแรกมี 2 พิมพ์ (สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพิมพ์ใหญ่) 
ช่างสมัยนั้นใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้เคลือบองค์พระไว้ทั้งด้านหน้าและหลัง ด้านหน้ามีหลุดร่อนไปหมดก็มีบางองค์เห็นคราบสีน้ำตาลดำติดอยู่ ด้านหลังที่มีคราบน้ำยารักษาเนื้อไม้อยู่บ้างทำให้ลวดลายเด่นขึ้นเหมือนไม้แกะลายส่วนเด่น บางองค์มีลายละเอียดเล็กๆน้อยๆบ่งบอกถึงฝีมืออันปราณีตของช่างหลวง พระชุดนี้พลังพุทธานุภาพ คนมีบุญอย่างเดียวไม่พอต้องมีบารมีด้วยจึงจะได้ครอบครอง

“วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร” 
พระอารามหลวง ชั้นเอก วัดประจำรัชกาลที่ ๓
วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่เดิมชื่อวัดจอมทอง เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงเทพมหานคร พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงสถาปนาวัดจอมทองขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม เนื่องจากเมื่อครั้งที่ทรงยกทัพไปสกัดทัพพม่าที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ กาญจนบุรีใน พ.ศ. 2363 เมื่อกระบวนทัพเรือมาถึงวัดจอมทอง ฝั่งธนบุรีทรงหยุดพักและทำพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงคราม พร้อมทรงอธิษฐานขอให้การไปราชการทัพครั้งนี้ได้ชัยชนะ แต่ปรากฏว่าไม่มีทัพพม่ายกเข้ามา เมื่อยกทัพกลับ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดจอมทองใหม่และถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่าวัดราชโอรส ซึ่งหมายถึง พระราชโอรสคือ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ 
วัดประจำรัชกาลที่ ๑ ถึง ๓...วัดเก่า ทำใหม่
สำหรับ วัดประจำรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 
วัดประจำรัชกาลที่ ๓ คือ “วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร” 
หรือ “วัดราชโอรสาราม” หรือ “วัดราชโอรส” 
วัดราชโอรสาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร 
ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีมาก่อนสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ คือ 
เป็นวัดราษฎร์ที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี 
เดิมเรียกว่า ‘วัดจอมทอง’ บ้าง ‘วัดเจ้าทอง’ บ้าง หรือ ‘วัดกองทอง’ บ้าง
มูลเหตุที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ 
ทรงสถาปนา “วัดราชโอรสาราม” นั้น 
สืบเนื่องจากบริเวณนี้เป็นนิวาสสถานของพระประยูรญาติ 
ข้างฝ่ายพระบรมราชชนนีของพระองค์ คือ กรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย 
(เจ้าจอมมารดาเรียม พระสนมเอกในรัชกาลที่ ๒) 
ธิดาของพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน (บุญจัน) ซึ่งมีจวนอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 
อันเป็นที่ตั้งวัดเฉลิมพระเกียรติในปัจจุบัน กับคุณหญิงเพ็ง 
ซึ่งเป็นธิดาของพระยาราชวังสัน (หวัง) บ้านอยู่ข้างวัดหงส์รัตนาราม 
และท่านชู ท่านชูนี้เป็นพระปัยยิกา (ยายทวด) ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 
กล่าวกันว่าเป็นธิดาของคฤหบดีชาวสวน มีนิวาสสถานอยู่แถววัดหนัง 
ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของวัดจอมทอง โดยมีคลองบางหว้าคั่นอยู่บริเวณ 
สองฟากคลองด่านและคลองบางหว้า ซึ่งมีวัดอยู่ ๓ วัดคือ วัดจอมทอง 
วัดหนัง และวัดนางนอง จึงมีพวกชาวสวนผู้เป็นวงศาคณาญาติของท่านชู 
อยู่จำนวนมาก และกล่าวได้ว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นพระประยูรญาติ 
ข้างฝ่ายพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทั้งสิ้น 
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พิเศษสำหรับคนพิเศษ วาระ สร้างปี พ.ศ. 2410
ในปี พ.ศ. 2410 เมื่อสมเด็จโตทำบุญอายุครบ 80 ปี ได้ถวายแม่พิมพ์เพิ่มอีกคือ
◾พิมพ์เส้นด้าย 1 พิมพ์
◾พิมพ์เจดีย์ 1 พิมพ์
◾พิมพ์ใหญ่ ชายจีวรบาง 1 พิมพ์
เนื้อสีน้ำตาลไหม้ ผิวมะกอกสุก ซึ่งมีส่วนผสมของผงใบลานไหม้ และเกสร ๑o๘ จำนวนมาก ทำขึ้นครั้งเดียวขณะเป็นพระราชปัญญาภรณ์
เนื้อพระสมเด็จ หมายถึงส่วนประกอบหลัก และสีขององค์พระ (นอกเหนือจากผงวิเศษทั้ง ๕ และผงปูนเปลือกหอยเผา ที่ต้องมีทุกองค์)
มวลสารที่เป็นส่วนประกอบหลัก 
มวลสารที่ใช้ผสมเป็นเนื้อพระของพระสมเด็จโต ประกอบด้วย
◾ผงพุทธคุณทั้ง ๕ อันได้แก่ 
◾ผงอทธิเจ มีอานุภาพในทางเมตตา มหานิยม
◾ผงปัตถมัง มีอานุภาพในทางคงกระพันชาตรี
◾ผงตรีนิสิงเห มีอานุภาพในทางมหาเสน่ห์
◾ผงพุทธคุณ มีอานุภาพในทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม
◾ผงมหาราช มีอานุภาพในทางมหาอำนาจ เสริมบารมี

ผงเหล่านี้สมเด็จโตเก็บรวบรวมจากผงปูนดินสอ (ดินสอพอง) ที่ท่านเขียนอักขระ ยันต์คาถาลงบนแผ่นกระดานชนวน และได้บริกรรมท่องคาถาในขณะที่ท่านเขียนจนจบแล้ว ก็จะลบอักขระ เลขยันต์ต่างๆ แล้วเริ่มต้นเขียนใหม่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ ผงปูนที่ได้จากการลบกระดานชนวน จะเก็บสะสมไว้จนมากพอ ก็จะนำมาเป็นมวลสารหลักของการสร้างพระสมเด็จ
◾ไม้มงคลและว่านต่างๆ (ในบางพิมพ์) ได้แก่ ดอกสวาท ดอกกาหลง ดอกรักซ้อน ดอกกาฝากรัก ดอกชัยพฤกษ์ ดอกว่านนกคุ้ม ดอกว่านนางล้อม ดอกว่านเสน่ห์จันทน์ขาว , เสน่ห์จันทน์แดง ดอกว่านนางกวัก ว่านพระพุทธเจ้าหลวง ใบพลูร่วมใจ ใบพลูสองหาง ผงเกสรบัวทั้ง ๕ และเกษร ๑o๘
◾ดินอาถรรพ์ ได้แก่ดินเจ็ดโป่ง ดินเจ็ดป่า ดินเจ็ดท่า ดินเจ็ดสระ ดินหลักเมือง ดินตะไคร่เจดีย์ ดินตะไคร่รอบโบสถ์ ดินตะไคร่ใบเสมา ดินกระแจะปรุงหอม
◾เปลือกหอย นำมาเผาและตำบดเป็นผงเนื้อปูน และผงเปลือกหอยที่ไม่ผ่านการเผา
◾ใบลานคัมภีร์ที่ชำรุด นำมาเผาและตำบดเป็นผง
◾อาหารและข้าวสุกที่แบ่งมาจากการฉัน ท่านจะนำไปตากแห้ง แล้วนำมาตำจนเป็นเม็ดเล็กๆ กล้วยน้ำหว้าสุก กล้วยหอมจันทน์ (รวมถึงผลขนุนสุก ที่ทำให้เนื้อพระมีสีอมเหลือง) ซึ่งจะนำมาตำรวมกับมวลสารต่าง ๆ เพื่อให้เนื้อพระมีความเหนียวเกาะติดกันในขณะที่กดพิมพ์พระ
◾น้ำพุทธมนต์จากแหล่งต่างๆ
◾น้ำผึ้ง น้ำอ้อยเคี่ยวจนเหนียว หรือน้ำมันตังอิ๊วในการสร้างพระสมเด็จยุคหลัง
◾เกสรและดอกไม้บูชาตากแห้ง นำมาตำบดเป็นผง
◾ผงถ่านที่ได้จากการเผาแม่พิมพ์ไม้ที่แตกชำรุด ผงถ่านก้านธูปและเถ้าธูปบูชาพระ

“วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร” 
http://www.lib.su.ac.th/web-temple/index.php…

https://www.facebook.com/WatRatchaorotsaram/

http://www.dhammathai.org/wat…/bangkok/watratchaorasaram.php

https://plus.google.com/10709642368611609…/posts/MKbmjkci1ax
https://plus.google.com/107096423686116093823/…/BWXQX8z9MdD

โทร: 

ราคา: 0 บาท

สถานะ: เปิดขาย